04-05 วิธีใช้สูตร If SumProduct

จากบทเรียนก่อน สูตรที่สร้างไว้เป็นสูตร IF ที่ซ้อนอยู่ในวงเล็บของสูตร SumIF แบบนี้

G5

=SUMIF( $C$5:$C5, IF($C5<>$J$2, ”zzz”, $J$2),D$5:D5 )

สูตรนี้ใช้เงื่อนไขเดียวคือชื่อ Product ก็เอาส่วนของเงื่อนไขไปปรับซ้อนในวงเล็บของ SumIF ดูแล้วก็ไม่ยากนัก แต่ถ้าในอนาคตมีเงื่อนไขประเภทอื่นเพิ่มขึ้นอีก เช่น ให้หายอดระหว่างวันที่ที่ต้องการ ก็ต้องเปลี่ยนไปใช้สูตร SumIFS โดยต้องเสียเวลาเอาเงื่อนไขไปใส่ในแต่ส่วนของ SumIFS อีกแบบนี้

=SumIFS( Rangeตัวเลขคำตอบ, Range1, เงื่อนไขที่1, Range2, เงื่อนไขที่2, Range3, เงื่อนไขที่3)

ถ้าส่วนของเงื่อนไขที่ต้องใช้นั้นมีเงื่อนไขซ้ำกันอีก แม้จะซ้ำเพียงบางส่วนก็ตาม ย่อมทำให้สูตรยาวขึ้น ขอเปรียบเทียบกับสมการแบบนี้

Answer = ax+bx+cx+…nx

สามารถทำให้ง่ายและสั้นลงเป็น

Answer = x(a+b+c+…n)

ดังนั้นจากสูตรเดิมที่ใช้ IF อยู่ในวงเล็บของ SumIF จึงสามารถแยกให้ IF ขึ้นมาก่อนแล้วให้ SumIF ซ้อนอยู่ใน IF แทนตามแบบนี้

=IF( $C5<>$J$2,0, SUMIF( $C$5:$C5, $J$2, D$5:D5 ) )

และแทนที่จะใช้ SumIFS ซึ่งต้องกระจายเงื่อนไขออกไป ขอแนะนำให้ใช้ SumProduct แทน (ในตัวอย่างต่อไปจะเห็นประโยชน์ของ SumProduct เมื่อมีหลายเงื่อนไขได้ชัดเจนยิ่งขึ้น)

=IF( $C5<>$J$2, 0, SUMPRODUCT( ( $C$5:$C5=$J$2 )*D$5:D5 ) )

Download ตัวอย่างบทเรียนนี้ได้จาก https://drive.google.com/file/d/1_R05gKnG-oNkAzzNfZ7gXP9J22382PYI/view?usp=sharing

FREE Online Excel Expert Training @ XLSiam
Scroll to Top